วันเสาร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2557

เรียนดนตรีที่บ้าน ด้วยการสอนฟังเพลง

โดย พ่อน้องเพลิน

ขณะที่เราไว้ใจให้ครูดนตรีสอนดนตรีลูกของเรา แม้เราจะช่วยเขาซ้อมที่บ้านไม่ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เราทำได้ก็คือ สร้างสภาวะแวดล้อมที่เหมาะกับการเรียนดนตรีของลูก

สิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือ การชวนลูกฟังดนตรี แต่ก่อนจะชวนลูกฟัง คุณพ่อหรือคุณแม่ก็ควรจะฟังก่อน และต้องเตรียมทำการบ้านอย่างดี

ผมขอแนะนำอย่างแรกเลยนะครับ คือเข้า Youtube เว็บวิดีโอยอดนิยม คิดว่าทุกคนคงเข้าเป็น นะครับ
ต่อจากนั้นหยิบหนังสือเรียนดนตรีของลูกมาเลยครับ ค้นหาไปยังชื่อเพลงทั้งหมดที่ลูกเรียน บางเพลงก็ค้นง่ายบางเพลงก็ค้นยาก  แต่ผมคิดว่าไม่เหนือบ่ากว่าแรงครับ และหากบันทึกเก็บเอาไว้มาเปิดซ้ำได้จะดีมาก

ฟังให้ออกนะครับว่าทำนองของเพลงเหล่านั้นเป็นอย่างไร อาจจะไม่คุ้นเพราะไม่ใช่เพลงป๊อปที่เราฟังอยู่ทุกวัน ซึ่งเพลงที่เราดาวน์โหลดมาหลายเพลงอาจดูเยอะกว่าเพลงที่ลูกเล่น เพราะส่วนใหญ่เพลงเรียนของเด็กๆ อาจมีการตัดต่อมาสอนเฉพาะบางส่วน และอาจมีการตัดต่อโน้ตบางตัวทิ้งไปด้วย ดังนั้นถ้าลูกเล่นไม่เป๊ะตามที่เราฟังมา อย่าเพิ่งไปตัดสินว่าลูกเล่นผิดนะครับ เอาแค่ฟังคุ้นๆ ก่อนเป็นพอ

ในกรณีที่ดาวน์โหลดมาเก็บไว้ เราคงต้องคำนึงไว้ด้วยว่าเราจะใช้อุปกรณ์อะไรในการเล่นซ้ำ และโปรแกรมที่เราเล่นอยู่สนับสนุนไฟล์แบบไหน เพราะบน Youtube นั้นมีให้เราโหลดได้หลากหลาย รูปแบบมาก อย่างเครื่องเล่นในรถยนต์ของผมจะรองรับไฟล์ MP4 แต่ไม่รองรับไฟล์ FLV

ดังนั้นอาจจะ ต้องยอมโหลดไฟล์ขนาดใหญ่มาใช้งาน พอโหลดเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วมาพอร์ตเข้า USB ก็ไป เชื่อมต่อกับเครื่องเล่นในรถได้

คราวนี้เวลาขับรถไปส่งลูก รับลูก หรือไปเที่ยวที่ไหนกันเราก็เปิดเพลงพวกนี้เพื่อสร้างความคุ้นเคยได้ทันที ตอนแรกลูกอาจจะไม่ชอบ เราก็ไม่ต้องไปบังคับ เปิดให้ผ่านๆ หู เข้าไว้ แล้วเขาจะเรียนเพลงเหล่านั้นได้ง่ายขึ้นเมื่อเขาได้ฟังมาก่อน ถือว่าเป็นการทำการบ้านก่อนเรียนครับ

เคล็ดลับต่อไปก็คือ สังเกตว่าลูกชอบอะไร และจะแทรกเพลงเข้าไปในสิ่งที่เขาชอบได้หรือไม่ ผมเชื่อว่าเด็กกว่า 90% ชอบดูการ์ตูน โดยเฉพาะจากหนังของดิสนีย์ พวกนี้มีเพลงนำที่ไพเราะเป็นจุด ขายอยู่แล้ว ส่วนเด็กผู้หญิงยิ่งง่ายใหญ่เลยเพราะ บาร์บี้และซีรีส์ที่ออกมาจะมีเพลงคลาสสิคในยุคต่างๆ แทรกอยู่
หนังการ์ตูนอย่าง Pink Panther หรือ Tom&Jerry ก็มีเพลงเพราะๆ มากมายแทรกเอาไว้

เราสามารถสร้างความคุ้นเคย และดาวน์โหลดเพลงเหล่านั้นมาเตือนความจำให้กับลูกเราได้ ซึ่งเขาจะ สนุกมากที่เราเอ่ยถึง และจะประหลาดใจไปในตัวว่า ที่เราฟังสนุกๆ มันมีเพลงเต็มอย่างนี้ หรือเล่นกันแบบนี้

อีกหนึ่งที่ไม่อยากพลาดก็คือ การ์ตูนญี่ปุ่น จากค่าย Ghibli ซึ่งผลิตการ์ตูนดีๆ ออกมาจำนวนมาก
และเพลงที่เล่นในแต่ละเรื่องก็มีความไพเราะ มีการนำเอาเพลงต่างๆ ในการ์ตูนแต่ละเรื่องมา Cover กันใหม่ได้แบบหลากหลายสไตล์ ไปได้ทั้ง New Age, Swing Jazz, Jazz, Heavy, Rock และอื่นๆ อีกมาก
ที่สำคัญค่ายนี้เขาผลิตโน้ตเพลงออกมาขายด้วย มีทั้งเวอร์ชั่นสำหรับเริ่มต้น ไปจนถึง Advance กันเลยทีเดียว

ลูกสาวผมเธอชอบการ์ตูนจากค่ายนี้มาก และได้เรียนรู้เพลงหลากหลายสไตล์จาก Cover ต่างๆ ทำให้เธอได้ฟังเพลงได้ทุกสไตล์ และมีความสุขกับการฟังเพลงโดยไม่รู้ตัว ที่สำคัญมันมีความใฝ่ ฝันที่จะเล่นเพลงเหล่านั้นเมื่อเธอมีความสามารถพอ

การบ้านข้อต่อไปก็คือ ศึกษาเพลงคลาสสิคของปรมาจารย์ทั้งหลาย ใครที่คิดว่าชาตินี้คงไม่สามารถปีนกระไดฟังเพลงพวกนี้ หากคุณพาลูกไปเรียนดนตรี คุณคงต้องคิดใหม่ทำใหม่ แรกเริ่มคงต้องไปหาหนังสือที่เขียนเกี่ยวกับเพลงคลาสสิคมาอ่าน เอาของคนไทยนี่แหละ เขาเขียนกันดีๆ อยู่หลายเล่ม (ความจริงในท้องตลาดมีไม่กี่เล่ม) ถ้าได้มาแล้วขี้เกียจอ่าน ผมแนะนำว่าให้เปิดยูทูปรอไปเลย เจอชื่อเพลงไหนในหนังสือก็พิมพ์ค้นหา จะมีเพลงที่ทั้งมาจากการบันทึกเสียง และเพลงจากเล่นคอนเสิร์ต เลือกเอาตามสะดวก ทางที่ดีบันทึกเอาไว้ด้วยเลย แล้วไปเปิดฟังกันให้ฉ่ำปอด หูบานกันไปข้างนึง

ช่วงเริ่มต้นลูกอาจจะยังไม่ต้องฟังก็ได้ พ่อแม่ก็ฟังไปเพลินๆ ก่อน เสร็จแล้วค่อยๆ สอดแทรกเข้าไป
เหมือนกับสมัยที่เราเด็กๆ พ่อแม่เปิดเพลงลูกทุ่งลูกกรุงให้เราฟังทุกเช้า ตอนแรกก็ไม่เข้าหู ฟังไปฟังไปเออมันก็เพราะดี หลังๆ เลยติด เปิดเองซะเลย

กลยุทธ์นี้ยังใช้ได้จนถึงรุ่นลูกเรานะครับ ไม่ต้องไปสาธยายมากว่าเป็นเพลงอะไร ดีอย่างไร ใครแต่ง เปิดกรอกหูแบบไม่ล้างสมองคือ ค่อยๆ เปิดไปเรื่อยๆ เดี๋ยวติดเอง เชื่อผม

เมื่อได้เพลงของปรมาจารย์ทั้งหลายแหล่มาไว้ในมือแล้ว คราวนี้ก็ถึงคราวค้นหาเพลงสุดยอดทางด้านดนตรีที่ลูกเราเลือกเรียน เปียโนก็จัดมา กีตาร์ก็เลือกมา ไวโอลินหรือ อูคูเลเล่ ต้องจัดอย่าได้ขาด ดังนั้นสิ่งที่พอแม่ต้องทำการบ้านก็คือ ศิลปินคนไหนที่สุดยอดในด้านต่างๆ และแต่ละศิลปินมีเพลงไหนที่เราพลาดไม่ได้ เตรียมบันทึกรอไว้ได้เลย

ผมว่ายุคนี้โชคดีกว่ายุคก่อนมาก เพราะสมัยก่อนกว่าจะหาผลงานชั้นเอกมานั่งฟัง ต้องใช้ทั้งเวลา ต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก และต้องรักที่จะค้นคว้าค้นหา รวมถึงเครื่องไม้เครื่องมือต้องดีพอควร แต่เดี๋ยวนี้เรามีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากมายที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ โหลดมาเก็บไว้กับตัวยังได้ เอาไว้ฟังได้ตลอดเวลา อย่าทำให้โอกาสนี้เสียไป และผมเชื่อว่าความสะดวกสบายเช่นนี้จะอยู่คู่กับเราไปอีกนาน

อีกเคล็ดลับหนึ่งที่ผมใช้แล้วลูกชอบใจมากคือ ผมจะดาวน์โหลดเพลงใหม่ๆ เอ็มวีทั้งของไทยของฝรั่งมาตลอดเวลา

เรียกได้ว่าลูกไม่ต้องเสียเวลาไปเปิดฟังเอง แถมฟังในรถเครื่องเสียงดีๆ มันให้อรรถรสกว่าฟังธรรมดาเยอะ
แต่ผมจะแอบสอดแทรกเพลงเด็ดๆ เอาไว้ในนั้นด้วย อาจเป็นเพลงเก่าที่ติดหู เมื่อลูกพอรู้จักเพลงนั้นแล้ว
ผมจะเริ่มเอาเวอร์ชันต่างๆ ของเพลงที่ผมแอบเอาไว้ งัดออกมาให้ลูกฟัง มีอยู่หลายเพลงแต่งกันไว้เมื่อ 100 กว่าปี แต่ถูกเอามา Cover เป็นหลากสไตล์อย่างมาก และทุกเวอร์ชัน ไพเราะจับใจจริง

เมื่อลูกผมได้ฟังเหมือนเพิ่มพูนสติปัญญาไปในตัว และทำให้เขารักเสียงเพลง รักการฟัง และอยากจะเล่นเพลงๆ นั้นเมื่อโอกาสมาถึง

บทสรุปในส่วนนี้ ผมเรียกร้องให้เราสร้างบรรยากาศการเรียนดนตรีของลูก ด้วยการให้ลูกฟังเพลง ฟังให้เยอะ ฟังให้หลากแนว สื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็แล้วแต่ นำเสนอแบบเนียนๆ เข้าไป ต้องออกลูกขยันและวางแผนสักหน่อย

เอาทั้งเพลงเรียน เพลงตามกระแส เพลงในอนาคต เพลงสุดยอดของโลก เพลงหลากหลายเวอร์ชัน
หยอดกันเข้าไป ทีละนิดทีละหน่อย ถือเป็นการสอนลูกโดยที่เสียค่าใช้จ่ายน้อยสุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น