โดย พ่อน้องเพลิน
เมื่อลูกบอกว่าจะเรียนอูคูเลเล่ หรือ อุ๊ค
พ่อแม่มักจะถามว่าจะเอาจริงมั๊ยลูก ความคิดแวบแรกอาจจะไม่คิดว่า
ถ้าเรียนอุ๊คมันคงไม่เหมือนเรียนเปียโน กีตาร์ ไวโอลิน ฯลฯ
เพราะความรู้สึกของคนส่วนใหญ่จะคิดว่า อุ๊ค เป็นเรื่องของความสบาย เล่นแบบเล่นเล่น
อย่าไปซีเรียส และ “มันต้องเรียนด้วยหรือ???”
ที่ผมเจอจะมีสองกรณีสำหรับคนที่หลงลมลูกที่บอกว่าจะเรียนอุ๊ค
นั่นคือ พาไปเรียนเลยแล้วหาซื้ออุ๊คให้ทีหลัง กับสองซื้ออุ๊คให้ลองก่อนแล้วค่อยพาไปเรียน
จะแบบไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละครับ ไม่ว่ากัน
แต่ตรงนี้ผมขอเขียนสำหรับคนที่จริงจังนะครับ
คือมั่นใจว่าจะต้องพาลูกไปเรียนอุ๊คแน่ และผลสุดท้ายคือต้องซื้ออุ๊คให้กับลูกหละ
คำถามที่ผมเจอบ่อยที่สุดคือ
จะซื้ออุ๊คแบบไหนให้กับลูกดี??? เดินไปซื้ออุ๊คที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไป
ราคาไม่กี่พันบาท บางทีเห็นในร้านหนังสือยังมีขายเลย
หลายครอบครัวไม่มั่นใจลูก จะซื้ออุ๊คราคาถูก
ซื้ออุ๊คที่ขายกันในท้องตลาดทั่วไป เพราะตัวเองก็ไม่มีความรู้
ถ้าท่านกำลังเป็นเช่นนี้ กรุณาหยุดก่อน มาหาความรู้กันก่อนดีกว่า
อุ๊คมันก็เหมือนกับเครื่องดนตรีทั่วไป
มีเลวมีดี ยิ่งราคาแพงก็ยิ่งเสียงดี มีเอกลักษณ์
อุ๊คถูกๆ ส่วนใหญ่ใช้วัสดุชั้นเลว
ซึ่งประกอบด้วย ตัวอุ๊คที่ทำจากไม้อัด ซึ่งจะทำให้เสียงอู้อี้ไม่ไพเราะ
ใช้สายเอ็นที่ไม่มีคุณภาพ เล่นยังไงก็เสียงไม่ใส ระบบเสียงข้างในไม่มีองค์ความรู้ประกอบ
จัดวางเบรซซิ่งแบบมั่วๆ คอก็ทำจากไม้อัดทำให้การสั่นสะเทือนของเสียงไม่ดี แถมเล่นๆ
ไปมีบาดมือด้วย ตัวปรับเสียงก็คุณภาพแย่ เล่นไปปรับไป เสียงไม่มาตรฐานซักที
แน่นอนของเหล่านี้ถ้าจะให้ดีราคาก็จะแพงไปด้วย
คำถามคือ ถ้าดูไม่เป็น ไม่เคยรู้ว่าจะต้องดูอะไรบ้าง
ควรจะทำอย่างไร เอาง่ายๆ เลยครับ ให้เลือกที่แบรนด์ หรือยี่ห้อ
อุ๊คนั้นถือเป็นเครื่องดนตรีประจำเก่าฮาวาย
ที่นี่มีทั้งวัสดุอุปกรณ์ชั้นเลิศ
และฝีมือช่างชั้นดีในการทำให้อุ๊คเสียงออกมาใสสบายเหมือนนอนเล่นอยู่ริมชายหาด
แบรนด์ใหญ่ๆ ระดับโลกของอุ๊คอยู่ที่นั่น
แต่ไม่ใช่ว่าอุ๊คที่มาจากโรงงานที่ฮาวายจะเสียงดีกันทุกตัว
สี่แบรนด์ใหญ่ที่ได้รับการยอมรับจากตลาดทั่วโลก
นั้นมาจากฮาวาย เริ่มจาก Kamaka แบรนด์เก่าแก่
ที่มีไสตล์เสียงที่เป็นแบบวินเทจ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เอาเป็นว่าเพลงที่เล่นจากอุ๊คยี่ห้อนี้ยากต่อการ เลียนแบบจากยี่ห้ออื่น ตัวอย่างเช่น เพลงของ Jake Shimabukuro ศิลปินอุ๊คชื่อดังระดับโลก
เล่นเพลงของเขาด้วยอุ๊คของ Kamaka
กลายเป็นเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ยากต่อการเลียนแบบจริงๆ
ราคาของอุ๊คยี่ห้อนี้ไม่ต้องห่วงเลยครับ เริ่มที่สามหมื่นกว่าบาทปลายๆ
และของไม่ใช่หาง่ายๆ บางทีต้องรอกันเป็นปีเลยทีเดียว
แบรนด์ที่สองคือ Kanile`a อ่านว่าคานิเลีย
แบรนด์นี้เกิดหลังคามาค่า แต่พิถีพิถันทำอุ๊คซะเหลือเกิน
อุ๊คที่ออกมาขายจึงสวยเช้งถูกตามถูกใจนักสะสมอย่างมาก เสียงที่ออกมาใส นุ่ม
เหมือนฟังจากกีตาร์คลาสสิคชั้นดี
แบรนด์ที่สามคือ KoAloha เป็นแบรนด์ที่สร้างอุ๊คให้ดูเรียบง่ายที่สุด แต่เสียงกลับพุ่งที่สุด
ราคาของแบรนด์นี้เทียบกับสี่แบรนด์ใหญ่ถือว่าเป็นราคาที่จับต้องได้
น่าสนใจมากในเมืองไทย
แบรนด์ที่สี่คือ KoAlou อ่านว่าโคอะลัว
ในกระบวนการแบรนด์ทั้งหมดแบรนด์นี้ผลิตสินค้าราคาแพงที่สุด เมื่อเทียบกันตัวต่อตัว
ผมเองไปร้านที่วางขายแบรนด์นี้อยู่ไปทีไรก็แค่จับ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้เป็นเจ้า ของสักครั้ง
เสียงอุ๊คของแบรนด์นี้แตกต่างจากอีกสามแบรนด์นั่นคือ
สามแบรนด์แรกฟังยังไงก็มีความรู้สึกถึงทะเลเป็นหลัก แต่โคอะลัวนั้นเสียงจะทุ้มกว่า
ฟังไปฟังมาเสียงเหมือนอยู่ในภูเขาซะงั้น
อย่างที่บอกว่าถ้าเล่นของดี มีแบรนด์การันตี
ราคาเริ่มต้นก็หมื่นปลายเป็นต้นไป เรื่อยไปจนถึงเป็นแสน
เพราะนอกจากจะมีองค์ความรู้การผลิตที่ดี ช่างที่มีความสามารถ
โรงงานที่มีเครื่องมือคุณภาพ ใช้ไม้ Koa หรือ โคอะ
ที่ปกติจะขึ้นอยู่บนดินภูเขาไฟเท่านั้น และฮาวายคือที่ปลูกไม้ชนิดนี้ได้ดีที่สุด
โรงงานพวกนี้จะเลือกไม้คุณภาพดี สวย เก็บอบแห่งอย่างยาวนาน
ทำให้เมื่อนำมาผลิตเสียงจะอยู่ตัว แทบจะตั้งเสียงน้อยมาก
ที่สำคัญอย่างที่บอก
โรงงานพวกนี้จะทำงานแบบครอบครัว พนักงานในโรงงานคือลูก หรือลูกศิษย์ไม่กี่คน
ความสามารถในการผลิตปีหนึ่งๆ ไม่เกินพันตัว ที่สำคัญคือส่งขายทั่วโลก
ดังนั้นไม่แปลกที่ในไทยจะหาซื้ออุ๊คพวกนี้จากร้านขายได้เพียงไม่กี่ร้าน
ที่เห็นก็มีเพียงสองร้านสำคัญๆ เท่านั้น
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจไม่สู้ครับ
คือมองว่าราคามันแพงไป ลูกเราอาจดูแลของแพงไม่ได้ เรื่องแพงนี่เดี๋ยวว่ากันต่อ
แต่เรื่องดูแลของไม่ได้อันนี้ผมเถียงใจขาด
เพราะประสบการณ์จากลูกสาวผมที่มีอุ๊คราคาหลายหมื่นมาเล่นตั้งแต่ห้าหกขวบ
เธอก็ดูแลอุ๊คหลายตัวนั้นอย่างดี ผมว่าถ้าเรามั่นใจเขานะครับ
เขาก็จะมั่นใจตัวเองตามไปด้วย
คราวนี้มาว่ากันเรื่องแพง บอกตรงๆ
ถ้าไม่รักจริง ราคาขนาดนี้ต้องถือว่าแพง แต่ถ้าคนที่คิดว่าจะมาทางนี้
ราคาพวกนี้ไม่น่าจะมีปัญหา และผมบอกตรงนี้เลยว่า ของพวกนี้ราคาไม่ตก
วันไหนเบื่อมีคนอยากซื้อต่อ หมุนเปลี่ยนมือได้ง่ายๆ
เมื่อไม่เอาแบรนด์ใหญ่
จะสนแบรนด์เล็กแต่คุณภาพเจ๋งๆ มีไหม พอมีครับ ประการแรก
ผมแนะนำให้ไปร้านอุ๊คที่ขายแบรนด์ใหญ่นั่นแหละครับ พวกนี้จะมีแบรนด์รองๆ
ได้อุ๊คที่มาจากไม้แท้ และคุณภาพเสียงระดับปานกลาง ราคาประมาณ 6,000 ถึงหนึ่งหมื่น อันนี้ต้องบอกว่าปานกลางแล้วนะครับ
ราคาต่ำกว่านี้ผมไม่แนะนำนะครับ
เมื่อได้แล้ว คราวนี้มาหาครูกันดีกว่าครับ
ใครกันละที่จะสอนอุ๊คให้ลูกเราดี คราวหน้าผมจะมาบรรเลงต่อครับ